พระราชวังต้องห้าม

กิจกรรมและบริการที่น่าสนใจใน พระราชวังต้องห้าม
สนุกสุดเหวี่ยงตามเสียงหัวใจ
พักผ่อนเต็มที่ไม่มีลิมิต
เดินทางสบายสไตล์คุณ
สำรวจเพิ่มเติม
รีวิวเที่ยว พระราชวังต้องห้าม
สถานที่ใกล้เคียง
คำถามพบบ่อยเมื่อไป พระราชวังต้องห้าม
ช่วงเวลาไหนที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมพระราชวังต้องห้ามในปักกิ่ง?
ฉันจะไปพระราชวังต้องห้ามโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างไร?
ฉันต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าสำหรับพระราชวังต้องห้ามหรือไม่?
มีทัวร์ไกด์ที่พระราชวังต้องห้ามหรือไม่?
อาหารท้องถิ่นที่ควรลองใกล้พระราชวังต้องห้ามมีอะไรบ้าง?
เวลาทำการของพระราชวังต้องห้ามคือเวลาใด?
ช่วงเวลาไหนที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมพระราชวังต้องห้ามเพื่อหลีกเลี่ยงคนเยอะ?
ฉันจะจองตั๋วสำหรับพระราชวังต้องห้ามได้อย่างไร?
มีที่กินอาหารภายในพระราชวังต้องห้ามหรือไม่?
ก่อนไป พระราชวังต้องห้าม ต้องรู้อะไรบ้าง?
เที่ยวพระราชวังต้องห้าม
ประวัติศาสตร์ของพระราชวังต้องห้าม
พระราชวังต้องห้าม หรือที่รู้จักในชื่อ “กู้กง” (故宫) ถือเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศจีน สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1406–1420 ในสมัยราชวงศ์หมิง โดยพระราชโองการของจักรพรรดิหย่งเล่อ เพื่อใช้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิและเป็นศูนย์กลางในการปกครองประเทศ ตลอดระยะเวลากว่า 500 ปี พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิถึง 24 พระองค์จากสองราชวงศ์คือราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง พระราชวังต้องห้ามมิได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัยของจักรพรรดิเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญในการประกอบพิธีกรรม การออกพระราชกฤษฎีกา และการต้อนรับราชทูตต่างชาติอีกด้วย ด้วยคุณค่าเชิงสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง พระราชวังต้องห้ามได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1987 ปัจจุบัน พระราชวังต้องห้ามเปิดให้ประชาชนเข้าชมในฐานะพิพิธภัณฑ์พระราชวัง (Palace Museum) โดยยังคงรักษาเสน่ห์และความยิ่งใหญ่ไว้ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกลิ่นอายแห่งยุครุ่งเรืองของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนมังกร
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในพระราชวังต้องห้าม
Hall of Supreme Harmony
เป็นหอที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในพระราชวังห้าม ใช้สำหรับงานพิธีสำคัญ เช่น พิธีฉิ่ง และงานแต่งงานของจักรพรรดิ มีฝ้ายซ้อนทับซ้อนที่ฝ้าเพดานด้วยดรมมังกรและกระจกสมุทรซวยยวย
Hall of Central Harmony
หอแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่จักรพรรดิใช้สำหรับการเตรียมตัวและพักผ่อนก่อนที่จะเข้าร่วมพิธีการใหญ่ในหออื่นๆ ที่อยู่ติดกัน เช่น พิธีราชาภิเษก พิธีแต่งตั้งขุนนาง หรือพิธีเฉลิมฉลองต่างๆ ภายในหอมีบัลลังก์จักรพรรดิประดิษฐานอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยลวดลายมังกรที่วิจิตรงดงาม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสูงสุดในราชสำนักจีน
เขตพระราชฐานฝ่ายใน
เขตพระราชฐานฝ่ายใน หรือ “Inner Court” ของพระราชวังต้องห้าม เป็นพื้นที่สำคัญที่ใช้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิ พระมเหสี และนางสนมในยุคราชวงศ์หมิงและชิง พื้นที่ส่วนนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของพระราชวังและมีลักษณะสงบเป็นส่วนตัว แตกต่างจากเขตพระราชฐานชั้นนอกที่เน้นเรื่องการเมืองและพิธีการ
ในเขตพระราชฐานฝ่ายใน ประกอบด้วยตำหนักหลักสามตำหนักคือ พระที่นั่งเฉียนชิง, พระที่นั่งเจียวไท่ และพระที่นั่งคุนหนิง ซึ่งใช้เป็นที่พำนักของจักรพรรดิและพระมเหสี โครงสร้างของอาคารเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและระเบียบแบบแผนของราชวงศ์จีนที่เคร่งครัด ทั้งยังแสดงออกถึงลำดับชั้นทางสังคมและสถานะของบุคคลในราชสำนักอย่างชัดเจน
สวนจักรพรรดิ
ปลายสุดทางเหนือของเขตพระราชฐานฝ่ายในคือ “สวนจักรพรรดิ” หรือ Imperial Garden ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดกะทัดรัด แต่ได้รับการออกแบบอย่างวิจิตรงดงาม ภายในสวนมีต้นไม้โบราณอายุนับร้อยปี ศาลาพักผ่อน และทางเดินหินที่ประณีต ให้บรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนของจักรพรรดิและพระมเหสีหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจประจำวัน
พื้นที่เขตที่พักอาศัยและสวนจักรพรรดิแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่แห่งการพักผ่อน แต่ยังเป็นหลักฐานสำคัญที่บอกเล่าวิถีชีวิต ภูมิปัญญา และศิลปะการออกแบบของชาวจีนในยุคราชวงศ์ได้อย่างลึกซึ้งและงดงาม
โครงสร้างและหลักสถาปัตยกรรม
โครงสร้างสถาปัตยกรรมของพระราชวังต้องห้ามได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันตามหลักปรัชญา “หยิน-หยาง” และศาสตร์ฮวงจุ้ย เพื่อให้สอดคล้องกับความเชื่อในเรื่องสมดุลของจักรวาลและการนำพาพลังงานที่ดีเข้ามาในพื้นที่พระราชวัง ตัวอาคารใช้โทนสีแดงและทองเป็นหลัก โดยสีแดงสื่อถึงพลัง อำนาจ และความเป็นสิริมงคล ขณะที่สีทองเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิ ผู้เปรียบเสมือนโอรสแห่งสวรรค์
การก่อสร้างทั้งหมดอิงจากแบบแผนใน “หนังสือมาตรฐานการก่อสร้างสมัยราชวงศ์หมิง” หรือ Yingzao Fashi ซึ่งเป็นคัมภีร์สำคัญในการกำหนดมาตรฐานของสถาปัตยกรรมราชสำนัก อาคารและตำหนักต่าง ๆ ภายในพระราชวังถูกจัดเรียงตามลำดับชั้นอย่างมีระเบียบแบบแผน เพื่อแสดงถึงลำดับชนชั้น อำนาจ และบทบาทหน้าที่ของแต่ละบุคคลในราชสำนัก
โครงสร้างเหล่านี้ไม่เพียงเป็นศิลปะที่ทรงคุณค่า แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดเรื่องระเบียบและอำนาจที่ฝังลึกอยู่ในวัฒนธรรมจีนโบราณอย่างชัดเจน พระราชวังต้องห้ามจึงไม่ใช่แค่สถานที่ทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นแบบอย่างของภูมิปัญญาทางสถาปัตยกรรมที่แฝงไว้ด้วยความหมายลึกซึ้งในทุกองค์ประกอบ
หากคุณกำลังมองหาทริปที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์ควบคู่กับความทันสมัย ปักกิ่งคือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด! เริ่มต้นการเดินทางของคุณที่ “พระราชวังต้องห้าม” หรือ The Forbidden City มรดกโลกยูเนสโกที่เคยเป็นศูนย์กลางอำนาจของจีนมานานกว่า 500 ปี
นอกจากพระราชวังต้องห้ามแล้ว ปักกิ่งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกำแพงเมืองจีน หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก หรือ Universal Studios Beijing สวนสนุกสุดล้ำที่เหมาะกับทุกวัย พร้อมปิดท้ายทริปด้วยการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นอย่างเป็ดปักกิ่งแสนอร่อย อย่าลืมวางแผนการเดินทางล่วงหน้า และจองบัตรเข้าชมผ่าน Klook เพื่อความสะดวกและคุ้ม!